เชื่อไหมครับ! ทักษะการเล่าเรื่องทำให้คุณได้ทุกสิ่งตามที่คุณต้องการ

     

      “การเล่าเรื่อง” ( Story Telling ) เป็นทักษะที่มีอยู่คู่โลกนี้มาช้านานแล้ว การเล่าเรื่องสามารถโน้มน้าว เรียกร้องความสนใจของคนได้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่สำเร็จได้ด้วยการเล่าเรื่องแทบทั้งนั้น  การเล่าเรื่องในแง่ของธุรกิจสามารถเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนความต้องการ จูงใจ สามารถเปลี่ยนคนที่เกลียดเรา ให้กลายเป็นคนที่รักเรา ศรัทธาเราได้ สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาสามัญให้กลายเป็นผู้นำ ในชั่วพริบตา ฉะนั้นในเมื่อทักษะ การเล่าเรื่อง ช่างเป็นพลังอันทรงพลังเช่นนี้แล้ว คิดดูซิครับ หากคุณนำพลังแห่งการเล่าเรื่องมาใช้ในการทำการตลาด ใช้ในการเขียนคำโฆษณา ใช้ในการทำธุรกิจของคุณ ความสำเร็จของคุณจะไปไหนเสีย  แต่มีปัญหาตรงที่ว่า “เราจะใช้พลังอันแสนวิเศษของการเล่าเรื่องนี้ นำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร” 

Story Telling

 

            การเล่าเรื่องที่ดี ที่จะนำมาใช้ในการทำการตลาด การโฆษณา และให้ผู้คนสนใจดั่งเวทมนตร์ได้นั้น คุณจะต้องเล่าเรื่อง เพื่อให้เชื่อมโยงระหว่างช่องว่างระหว่างธุรกิจของคุณ และลูกค้าเป้าหมายของคุณ ช่องว่างนี้เรียกว่า “ช่องว่างทางธุรกิจ” นั่นเอง ซึ่งการเล่าเรื่องราวที่ดีเป็นสิ่งที่ทำให้เกิด สะพาน เพื่อปิดช่องว่างเหล่านั้น โดยสะพานที่ดีที่เกิดจากการเล่าเรื่องราวต้องสามารถ ดึงดูดความสนใจ และทำให้ผู้คนหลงไหลได้ เมื่อนั้นแหล่ะคุณจะได้ทุกสิ่งตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย หรือความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจคุณ

       โดยองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างสะพานเรื่องราว เพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมายให้เข้ามาหาธุรกิจของคุณนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่างก็คือ

       1. ความสนใจ

           แน่นอนเสาหลักข้อแรกของการเล่าเรื่องก็คือ การเล่าเพื่อกระตุ้นความสนใจให้เกิดขึ้นในจิตใจของลูกค้าเสียก่อน เรื่องราวที่คุณเล่าจะต้องให้ลูกค้าเป้าหมาย สนใจ ประทับใจคุณทันที มีนักวิจัยได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการเล่าเรื่องว่า ประสบการณ์ที่ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย ที่ถูกเรื่องเล่าเข้าครอบงำว่า “การถูกเรื่องเล่านำพา” ( อ้างอิงจากหนังสือ Stories That Stick เขียนโดย Kindra Hall )  ซึ่งมิได้เกิดจากการบีบบังคับให้ต้องฟัง  ยิ่งการเล่าเรื่องน่าสนใจ จะยิ่งนำพาผู้ฟัง หรือผู้อ่าน ของเราสูญเสียการับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยรอบทันที

       2. อำนาจการจูงใจ

          การเล่าเรื่องที่ดี มีประสิทธิภาพจะจูงใจ ทำให้ผู้ฟัง และผู้อ่าน หลงอยู่ในเรื่องราวเหล่านั้น ทำให้การต่อต้านค่อยๆลดลงไป ทุกๆ สิ่งที่คุณเล่า จะทำให้คนที่สัมผัสกับเรื่องเล่าของคุณ เกิดหลงรัก เกิดความชื่นชม ทำให้ก็ดีไปหมด ซึ่งเกิดจากความต้องการจริงๆ ของเขาภายในใจของเขาล้วนๆ  อะไรที่เกิดจากความต้องการของจิตใจภายใน ย่อมมีความสุขที่จะได้สัมผัส นี่แหล่ะครับอิทธิพลของเรื่องเล่า ที่สามารถชักจูง จูงใจกล่มเป้าหมายของคุณได้อย่างชงัด โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาอะไรมากมายเลย

        3. การเปลี่ยนแปลง

          เมื่อมาถึงตอนนี้ คุณคงทราบถึงอำนาจของเรื่องเล่า ที่สามารถทำให้ผู้ฟัง และผู้อ่านได้มีอารมณ์ร่วม หรือเดินทางเข้าไปในเรื่องเล่าเหล่านั้น ( เกิดความสนใจ )   หากยิ่งผู้ฟัง ผู้อ่าน สนใจเรื่องเล่าเหล่านี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ เขาจะรับเอาความคิดต่างๆ มุมมองต่างๆ ในเรื่องที่เล่านั้นเข้ามาในจิตใจของเขาด้วย ( อำนาจจูงใจ )  เมื่อผู้ฟัง และผู้อ่าน ได้รับเรื่องราวดีๆที่คุณถ่ายทอดมา เกิดเป็น ความสนใจ + เกิดการจูงใจ แล้ว จะทำให้เกิดความสนใจ เกิดความเข้าใจของเรื่องเล่า จะทำให้ผู้รับสื่อเกิดความเปลี่ยนขึ้นตามเรื่องราวที่เล่า และไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแค่ 3 – 4 นาที แต่ยังคงตราตรีงเข้าไปในจิตใจอย่างยาวนานมาก

       และที่คือความมหัศจรรย์ของเรื่องที่สามารถเปลี่ยนแผลง พลิกโฉมธุรกิจ ยอดขาย การตลาดได้อย่างสิ้นเชิงในระยะยาว ซึ่งทักษะการเล่าเรื่องราวเป็นทักษะที่ฝึกฝนกันได้ ซึ่งทางผมจะนำมาลงให้ทุกคนได้อ่าน และนำไปปรับใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของคุณเอง ติดตามกันน่ะครับ

     

     

Leave a Comment