เพราะอะไร? การเล่าเรื่องธุรกิจของคุณจึงล้มเหลว
การเล่าเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ หรือที่เรียกกันว่า “Story Business Telling” นั้นมีความสำคัญมากในยุคการตลาดสมัยใหม่ในปัจจุบัน เพราะการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ เกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณได้ดี มีคุณภาพจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้น จนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อของลูกค้าของคุณ และเป็นที่แน่นอนอีกว่า การตลาดแบบเล่าเรื่องราวธุรกิจ (Story Telling Marketing) ในปัจจุบันเป็นจุด “ชี้เป็น ชี้ตาย” ในธุรกิจ และสินค้าบริการของคุณเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นหากคุณ เล่าเรื่องราวของธุรกิจและสินค้าของคุณไม่ดี จะทำให้ธุรกิจของคุณล้มเหลวไปเป็นท่าได้เลยทีเดียว
แล้วอะไรล่ะ เป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้การเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับธุรกิจของคุณล้มเหลว?
คุณ Donald Miller ผู้เขียนหนังสือ Building A Story brand บอกว่า ความผิดพลาดของธุรกิจในการพูด บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจในสื่อต่างๆ นั้น มีอยู่หลักๆ ด้วยกันอยู่ 2 ข้อด้วยกัน และเป็น 2 ข้อที่ธุรกิจเกือบ 90% ล่ะเลยจนทำให้ธุรกิจต้องพังลงอย่างไม่เป็นท่าดังนี้คือ
1. สิ่งที่แบรนด์ และธุรกิจทั้งหลายในการบอกเล่าเรื่องราวนั้น พวกเขาไม่ได้เน้นย้ำว่า สิ่งที่พวกเขานำเสนอ บอกเล่าเรื่องราวนั้นสามารถช่วยเหลือลูกค้า ผู้คน กลุ่มเป้าหมายให้ดำรงชีวิต เกิดการพัฒนา และทำให้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างไร
การเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของผู้คน ให้ดีขึ้น และเกิดการพัฒนานั้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านร่างกาย จิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ การดำรงชีพ เป็นการดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง และผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกเขา ไม่ใช่พวกฉัน เขาไม่สนใจหรอกครับว่า ประวัติของธุรกิจของคุณเป็นอย่างไร จัดวางสินค้าอย่างไร ต่อสู้มามากน้อยแค่ไหน หากการเล่าเรื่องราวนั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาให้พวกเขา เขาก็จะไม่สนใจ และไม่ใยดีต่อการสื่อสารเรื่องราวธุรกิจ และสินค้าของคุณเลย อาจจะฟังดูเลวร้ายน่ะครับ แต่มันเป็นเรื่องจริง
คุณ Donald Miller ยังบอกอีกว่า สมองของคนเราทุกคน จะมีการเรียงข้อมูล ตามลำดับความสำคัญอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นก็ไม่แปลกหากสมองของผู้รับเรื่องราวของคุณ จะไม่สนใจข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับการดำรงชีวิต และการพัฒนาของตัวเขา มันไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตของเขา ถึงตอนนี้คุณคงรู้แล้วน่ะครับว่า การที่คุณบอกเล่าประวัติ ความเป็นมาของธุรกิจ ของสินค้าและบริการของคุณ ว่าคุณต้องต่อสู้มามากน้อยแค่ไหน จึงเป็นแค่สิ่งที่ไม่จำเป็นต่อสมองของเขาในการจดจำ
2. เรื่องราวที่คุณเสนอ บอกเล่าเรื่องราวนั้น ใช้ประโยคและคำที่เข้าใจยาก ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ
ตามที่ได้บอกแล้วว่า สมองของคนเราจะมีการจัดเรียงความสำคัญอยู่ตลอดเวลา หากคุณเสนอเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา การดำรงชีวิต เกิดการพัฒนาแล้ว ยิ่งคุณใช้ประโยค และคำในการบอกเล่าเรื่องราวที่ยาก วกไปวนมา มีแต่น้ำ ยิ่งทำให้สมองของผู้รับเรื่องราวไม่รับเรื่องที่คุณต้องสื่อ จึงทำให้เกิดความล้มเหลว
ฉะนั้นคุณต้องใช้ประโยค และคำที่ง่ายต่อการเข้าใจของเขา ไม่ต้องใช้ศัพย์แสงอะไรให้มากเกินไป ใช้ประโยคและศัพท์บ้านๆ นี่แหล่ะให้เขาเข้าใจ สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่เร่งรีบไปเสียหมด สมาธิของคนในยุคใหม่ปัจจุบันนี้ลดน้อยลงทุกวันเนื่องมาจากสื่อ และข้อมูลต่างๆ ที่มากจนเกินไป ฉะนั้น บอกเล่าความต้องการออกไปตรงๆ เลยตั้งแต่แรกไม่ต้องมีการเกริ่นนำ อรัมภบท อะไรมากมายมันเสียเวลา และสิ้นเปลืองพลังสมองมาก
จำไว้ว่ายิ่งคุณในคำ และประโยคที่เข้าใจยาก ยาวๆ มีแต่น้ำ ยิ่งทำให้คนสับสน และทำให้เขาเลิกสนใจธุรกิจ และสินค้าของคุณไปเลย
ฉะนั้นจากความผิดพลาดในการบอกเล่าเรื่องราวธุรกิจ และสินค้าของคุณที่กล่าวมา สรุปได้ว่า คุณต้องบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันของเขา เกิดการพัฒนา และต้องใช้ประโยค คำที่ง่ายๆ ชัดเจน ตรงๆไปเลยจึงจะได้ผลครับ